บันดาอาเจะ, อินโดนีเซีย – ตำรวจศาสนาในเขตปกครองตนเองอาเจะ เริ่มเข้มงวดกับการแต่งกายของสตรีมากขึ้น โดยผู้หญิงหลายคนถูกเรียกตักเตือน เพราะสวมกางเกงยีน หรือเสื้อที่เข้ารูปเกินไป รวมทั้งผู้ชายที่สวมกางเกงขาสั้น
ฮาลี มาร์ซูกี ผู้บังคับการตำรวจชาริอะฮฺ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักชาริอะฮฺ ซึ่งฝ่ายปกครองอาเจะได้ประกาศใช้ ผู้หญิงจะต้องปกปิดร่างกายให้เห็นได้แค่ใบหน้า และฝ่ามือ
อาเจ๊ะซึ่งอยู่ปลายสุดของเกาะสุมาตรา ห่างจากจาการ์ต้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 1,000 กิโลเมตร (620 ไมล์) เป็นหนึ่งในเขตที่ปกครองด้วยความเคร่งครัดในศาสนา มากกว่าในอีกหลายเขตของอินโดนีเซีย ซึ่งส่วนมากประชาชนเป็นกลุ่มมุสลิมสายกลาง
กองตำรวจชาริอะฮฺของอาเจ๊ะมีเจ้าหน้าที่กว่า 1,500 คน เป็นผู้หญิง 60 คน ซึ่งประชาชนไม่รู้สึกกังวลกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มากนัก เพราะไม่มีการพกอาวุธ และแสดงความเป็นมิตรโดยเพียงแต่ตักเตือนในสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง
อิสกันเดอร์ หัวหน้าตำรวจชาริอะฮฺของอาเจะอธิบายว่า การลงโทษไม่ใช่เป้าหมาย แต่ต้องชี้แจงถึงความผิด และอธิบายให้เข้าใจ เขามีอำนาจในการสั่งโบยผู้กระทำผิด แต่พบว่าไม่จำเป็นต้องสั่งโบยผู้คน และนับตั้งแต่ขึ้นสู่ตำแหน่ง 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้ถูกสั่งโบยไม่ถึง 12 คน ส่วนมากที่โดนลงโทษเป็นเพราะดื่มสุรา เล่นการพนัน และมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้แต่งงาน
เท่าที่ผ่านมาตำรวจชาริอะฮฺได้รับความร่วมมือจากประชาชน โดยบางครั้งได้รับแจ้งให้ไปจับผู้ที่กระทำผิด หน้าที่ของตำรวจชาริอะฮฺคือการตระเวนในพื้นที่บ่อยๆ ซึ่งจะทำให้ประชาชนระมัดระวังตัวไม่ทำผิด โดยเฉพาะหนุ่ม-สาวที่ควงกัน หรืออยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสมโดยยังไม่ได้แต่งงานถูกต้อง
อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่ว่าสถานการณ์ที่ผ่อนคลายนี้จะเปลี่ยนไปหรือไม่ หากกฎหมายที่ลงโทษผู้คบชู้ด้วยการขว้างด้วยก้อนหิน และเพศที่ 3 ต้องถูกลงโทษโบย ผ่านการอนุมัติออกมาบังคับใช้ โดยทางฝ่ายกฎหมายของอาเจะเสนอเข้าไปเมื่อวันที่ 14 กันยายน และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในรัฐสภาของรัฐบาลใหม่
สมาชิกสภานิติบัญญัติในจาการ์ต้าจำนวนมาก แสดงความไม่เห็นด้วยกับการลงโทษเช่นนี้ คัยรานี อาริฟีน นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีในอาเจะกล่าวว่า ต้องใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาอย่างมาก ในสถานการณ์ที่กำลังเผชิญกับการกดดันในเรื่องความรุนแรง และหากกฎหมายผ่านนี้ออกมาบังคับใช้ ไม่แน่ว่าอาเจะอาจจะมีสภาพเหมือนปากีสถานสักวันหนึ่งในอนาคต- www.muslimthai.com