สำนักข่าวมุสลิมไทย - สงสัยกันบ้างไหม ว่าทำไมอิสราเอลยอมแลกเชลยนับร้อย เพื่อทหารเพียงคนเดียว

กา ซ่า ซิตี้ – เมื่อวันพุธ (23/12) ตาเฮอร์ อัล-นูนู โฆษกฝ่ายปกครองที่นำโดยฮามาสแถลงว่า กำลังพิจารณาข้อเสนอล่าสุดของอิสราเอล ที่เสนอผ่านผู้ประสานชาวเยอรมัน ในการเจรจาแลกนักโทษชาวปาเลสไตน์ หลายร้อยคน กับทหารอิสราเอลที่ถูกจับเมื่อ 3 ปีก่อน

ผู้ ประสานงานชาวเยอรมันทำหน้าที่เป็นผู้เจรจาต่อรอง เพื่อให้ฮามาสปล่อยสิบโทกิลาด ชาลิท วัย 23 ปี โดยทั้งสองฝ่ายไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดของการเจรจาดังกล่าว แต่ฮามาสได้แถลงว่า ฝ่ายของตนมีอำนาจเหนือกว่าในการตัดสินใจ และจะพยายามเจรจาให้ได้เปรียบมากที่สุด หลังจากที่ได้กล่าวตำหนิอิสราเอล ที่พยายามหน่วงเหนี่ยวการตัดสินใจแลกเชลยอิสราเอล กับเชลยปาเลสไตน์หลายร้อยคนตามข้อเสนอของฮามาส

สิบโทกิลาด ชาลิท ในวัย 19 ปี

แต่ การต่อรองกันดูท่าจะใกล้ประสบความสำเร็จ เพราะนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีระดับสูงถึง 5 ครั้ง ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง โดยเทนันยาฮูได้กล่าวกับครอบครัวของทหารอิสราเอลที่ถูกสังหารโดยเชลย ปาเลสไตน์ ที่จะถูกปล่อยเพื่อแลกกับกิลาตว่า เขาตัดสินใจลำบากมากในเรื่องนี้ เพราะต้องรักษาชีวิตของกิลาต ในขณะที่กังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอิสราเอลในอนาคต หากเชลยปาเลสไตน์ระดับหัวกะทิเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัว

สื่อ ท้องถิ่นอิสราเอลรายงานว่า ฝ่ายอิสราเอลไม่เต็มใจปล่อยเชลยปาเลสไตน์บางคนกลับบ้านในเขตเวสต์ แบ๊งค์ แต่ขอให้ส่งไปกาซ่า หรือประเทศที่สามแทน แต่อย่างไรก็ดี ฝ่ายอิสราเอลเห็นด้วยกับภาพรวมของข้อเสนอผ่านคนกลางชาวเยอรมัน เพียงแต่ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาในรายชื่อของเชลยปาเลสไตน์ระดับผู้นำเท่านั้น

แหล่ง ข่าวเจ้าหน้าที่อิสราเอล และปาเลสไตน์ระบุว่า ในขั้นแรกอิสราเอลจะปล่อยเชลยปาเลสไตน์ 450 คน ซึ่งในจำนวนนี้หลายคนจับได้จากการสู้รบ และจะมีการปล่อยเชลยอีก 500 คนตามมา ปัจจุบันมีเชลยปาเลสไตน์ถูกควบคุมตัวอยู่ประมาณ 8,000 คน

สาเหตุ ที่ให้เยอรมันเป็นผู้ประสานในเรื่องนี้ เนื่องจากเคยประสบความสำเร็จ ในการเป็นคนกลางเจรจาแลกเปลี่ยนเชลย ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มเฮสบอลเลาะฮฺ โดยเยอรมันเข้ามาทำหน้าที่นี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากการประสานโดยอียิปต์ล้มเหลว

กิลาต ชาลิตถูกจับเมื่อเดือนมิถุนายน 2006 โดยกลุ่มฮามาส และกลุ่มปาเลสไตน์เล็กๆ 2 กลุ่ม ลอดอุโมงค์ที่ขุดจากฉนวนกาซ่า เข้าไปในดินแดนอิสราเอลเพื่อโจมตีหน่วยทหาร ซึ่งในครั้งนั้นมีทหารอิสราเอลเสียชีวิต 2 คน - muslimthai.com

แมดริด – หนังสือพิมพ์กีฬารายวัน AS ของสเปน รายงานข่าวไม่ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ (27/12) ว่า ชีคมันซูร บินซาอิด อัล นะฮฺยาน ผู้ครองอันดับเศรษฐีพันล้านแห่งอาบู ดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดำริจะซื้อทีมฟุตบอลดัง เรียล แมดริของสเปน

ชีคมันซูร บินซาอิด อัล นะฮฺยาน ผู้ครองอันดับเศรษฐีพันล้านแห่งอาบู ดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยขณะนี้เขาเป็นเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่แล้ว และราคาสำหรับทีมเรียล แมดริด ที่ชี้คเสนอเข้ามาอยู่ที่ 1 พันล้านยูโร (1.4 ล้านดอลล่าร์) โดยทีมดังกล่าวมีดาราดังๆ เช่น กาก้า และคริสเตียนโน โรนัลโด้

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ได้สรุปว่า ชีคนะฮฺยานไม่น่าจะซื้อทีมนี้ได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสถานะใดๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากแฟนฟุตบอลชาวสเปนที่ถือหุ้นอยู่ โดยในทางปฏิบัติแฟนฟุตบอลจะเป็นผู้ออกเสียงเลือกคณะกรรมการส่วนมากในบอร์ด และในการเลือกตั้งประธานด้วย

การนัดหมายเจรจาระหว่างชี้ค กับประธาน โฟลเรนติโน่ เปเรซ กำหนดในต้นปีหน้า ทีมเรียล เมดริด มีหนี้สินประมาณ 327 ล้านยูโร - www.muslimthai.com

ไคโร – ผลการลงมติเห็นด้วยกับการห้ามสร้างหออะซานในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขยายผลออกไปทั่วยุโรป โดยกลุ่มที่ต่อต้านอิสลามในประเทศต่างๆ อาทิ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และอิตาลี เล็งทำประชามติเพื่อหาแนวร่วมในการห้ามสร้างสัญลักษณ์อื่นๆ ของมุสลิม

เฉพาะในเนเธอร์แลนด์ นาย Geert Wilders คู่ปรับเจ้าเก่าซึ่งเป็นผู้นำพรรคขวาจัด ดัทช์ ฟรีด้อม ออกมากล่าวกับหนังสือพิมพ์รายวัน Volkskrant เมื่อวันจันทร์ (30/11) ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ประชาชนในยุโรปลุกขึ้นมาต่อต้านการแพร่ขยายอิสลาม

ในปี 2008 บุคคลผู้นี้เคยลงทุนสร้างหนังสารคดีเรื่อง Fitna ซึ่งกล่าวหาว่ากุรอานเป็นคัมภีร์ซึ่งสอนเกี่ยวกับความรุนแรง หนังดังกล่าวได้รับการประณามจากสังคมนานาชาติ รวมทั้งนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติออกมากล่าวว่า เป็นภาพยนตร์ที่น่ารังเกียจ นอกจากนั้น เขายังเรียกร้องให้ยุติเผยแพร่คัมภีร์กุรอาน โดยว่าเป็นคัมภีร์แห่งเผด็จการ และเรียกร้องให้ยุติรับผู้อพยพจากประเทศมุสลิม และห้ามสร้างมัสยิดในเนเธอร์แลนด์

สำหรับในเบลเยี่ยม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พรรคฝ่ายขวา Vlaams Belang ประกาศยื่นขอเปลี่ยนแปลงกฎหมายต่อรัฐสภา เพื่อห้ามการสร้างหออะซานเช่นกัน

โดยข้ออ้างคือเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเบลเยี่ยม

อิตาลีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีบรรยากาศของการต่อต้านอิสลาม นายโรเบอร์โต้ คัลดิโรลี่ สมาชิกกลุ่มนอร์เธิร์น ลีค ออกมาเรียกร้องให้สั่งห้ามสร้างหออะซานในอิตาลีเช่นกัน โดยเขาอ้างการลงมติในสวิส ฯ ซึ่งแสดงว่า ชาวยุโรปเห็นด้วยกับการสร้างหอระฆังในโบสถ์คริสต์ แต่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างหออะซานในมัสยิด

นายมาริโอ บอร์เกสซิโอ้ สมาชิกสภายุโรปจากกลุ่มเดียวกัน ออกมาแสดงความยินดีกับชาวสวิส ฯ ว่าได้เป็นผู้โบกธงแห่งความกล้าหาญ ซึ่งแสดงว่าไม่ยอมสยบต่อการเผยแพร่อิสลาม

กลุ่มนอร์เธิร์นลีคนี้ ต่อต้านอิสลามทุกรูปแบบ รวมทั้งเผยแพร่ให้เกิดความหวาดกลัวแก่ชาวอิตาลีว่า ผู้อพยพมักก่ออาชญากรรม ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ และทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวคริสต์ ทั้งนี้เพื่อหวังคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ในเดือนพฤษภาคม 2008 ที่รัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ้ เบอร์ลัสคูนี่ เพิ่งขึ้นครองอำนาจ กลุ่มนี้ได้ออกมาเรียกร้องห้ามสร้างมัสยิดในเมืองเวโรน่า โดยก่อนหน้านี้ได้ประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ยุติการสร้างมัสยิดในเมือง โบโลนญ่า ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ